All entries for May 2007

May 29, 2007

The Wizard of Words must die!!

The Wizard of Words

จักรวรรดินิยม
การควบคุมทางความคิดมิได้ตั้งขึ้นได้ด้วยการใช้กำลังบีบบังคับ
ตรงกันข้าม กระบวนการดังกล่าวเป็นการใช้เหตุผลอย่างสุดขั้ว
และผู้มีอำนาจคือผู้ที่สามารถควบคุมเกมส์ทางภาษาและความคิด

ภาษาคือทุกสิ่ง
เจ้าแห่งอำนาจ เจ้าแห่งจักรวรรดิ คือเจ้าแห่งภาษา

ด้วยมิใช่กระบวนการนี้ดอกหรือที่ทำให้คำนิยาม ”ยุโรป” หรือ ”ตะวันตก” ที่แท้จริงแล้วเป็นคำว่างเปล่า เป็นสิ่งสร้าง
สามารถดำรงอำนาจเหนือพื้นที่อื่นของโลก
”ตะวันออก” กลายเป็นดินแดนสนธยาที่ไร้ประวัติศาสตร์ และมืดมนจมปลักอยู่แต่ empty time ไม่มีพัฒนาการตามขั้นตอนการพัฒนาสู่สิ่งสร้างที่เรียกว่า
ความสมัยใหม่ อันเป็นสิ่งที่เจ้าแห่งภาษาได้บัญญัติไว้ว่าผูกขาดอยู่เฉพาะกับภูมิภาคของผู้คนหัวทองตาฟ้า

นั่นคืออดีต และจะมีประโยชน์อะไรเล่าหากทฤษฎีโพสต์โคโลเนียลไม่สามารถนำมาใช้มองเหตุการณ์ปัจจุบัน

จักรวรรดินิยม
การควบคุมทางความคิดมิได้ตั้งขึ้นได้ด้วยการใช้กำลังบีบบังคับ
ตรงกันข้าม กระบวนการดังกล่าวเป็นการใช้เหตุผลอย่างสุดขั้ว
และผู้มีอำนาจคือผู้ที่สามารถควบคุมเกมส์ทางภาษาและความคิด

ภาษาคือทุกสิ่ง
ปรัชญาการคิดของกรีกตั้งแต่อริสโตเติล การแยกสองสิ่งออกจากกัน ก กับ สิ่งที่ไม่ใช่ ก เป็นบ่อเกิดของการเรียนรู้โดยการแยกโลกนี้ออกเป็นขั้วตรงข้าม
ขาว ตรงข้ามกับ ดำ
ดี ตรงข้ามกับ ชั่ว
ประชาธิปไตย ตรงข้ามกับ ทรราชย์
สัญญาประชาคม ตรงข้ามกับ ระบอบกษัตริย์
การเลือกตั้ง ตรงข้ามกับ รัฐประหาร

เจ้าแห่งอำนาจ เจ้าแห่งจักรวรรดิ คือเจ้าแห่งภาษา
มันน่าสับสนเหลือเกินเมื่อทรราชย์แปะป้ายตนเองในทิศทางที่ตรงกันข้าม

การนำสัตว์ปีกไปแลกเครื่องบินเพื่อได้รับมาซึ่งใบปริญญาทางเศรษฐศาสตร์
เพื่อแสดงว่าตนได้การยอมรับ
คือการเล่นกับระบบสัญลักษณ์

การใส่สีไปในคำว่า ”ประชาธิปไตยของมหาชน”
เพื่อทำให้ประชาชนไขว้เขวสับสน
คือการเล่นกับระบบภาษา

เราจะตกอยู่ใต้จักรวรรดินี้ไปนานเท่าใด

เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ตอนนี้ พ่อมดที่ลี้ภัยอยู่กรุงลอนดอน
เราก็ต้องพูดภาษาที่เข้ากับบริบทของอังกฤษ

ลองมาคิดดู
เราต่างเป็น คาลิบานในบทละคร เดอะ เทมเพสต์ ของ เชคสเปียร์
ที่ในที่สุดก็ต้องตะหนักถึงข้อความจริงที่ว่า
จะปลดแอกทางความคิดได้นั้น ลำพังจะฆ่าหรือทำลายพรอสเพโรไม่ได้
ต้อง ”เผา” ภาษาของพรอสเพโรอย่างเดียว

Having first seized his books; or with a log
Batter his skull, or paunch him with a stake,
Or cut his weasand with thy knife. Remember
First to possess his books, for without them
He’s but a sot, as I am, nor hath not
One spirit to command—they all do hate him
As rootedly as I. Burn but his books.

จักรวรรดินิยม
การควบคุมทางความคิดมิได้ตั้งขึ้นได้ด้วยการใช้กำลังบีบบังคับ
ตรงกันข้าม กระบวนการดังกล่าวเป็นการใช้เหตุผลอย่างสุดขั้ว
และผู้มีอำนาจคือผู้ที่สามารถควบคุมเกมส์ทางภาษาและความคิด

ภาษาคือทุกสิ่ง
เจ้าแห่งอำนาจ เจ้าแห่งจักรวรรดิ คือเจ้าแห่งภาษา

พรุ่งนี้ชี้ชะตา
ขอให้อย่าฆ่าพรอสเพโรแต่กาย

หากล้มล้างลึกไปถึงราก
และทำลายฤทธิ์แห่งภาษาอันจอมปลอมให้สิ้นซาก!!

I call for TRUE decolonization!!


May 27, 2007

Still on my mind

What’s your favourite song in all His Majesty’s musical composition?

Mine is “Still on my mind” or ในดวงใจนิรันดร์

For several reasons… to name a few…

The song speaks for my heart, that’s one… :)
The melody is perfect, that’s one…
The language is beautiful, needless to say that His Majesty was the One who composed the original lyrics in English Himself…
And the translation by Prof. Dr. Prasert (whom I dearly admire)
is just superb…

Just wanna share this with you
This is for someone
who is and will be ever, and ever
still on my mind

-----------------------------------------------

Still on my mind

Click here to listen:

http://tools.wikimedia.de/~gmaxwell/jorbis/JOrbisPlayer.php?path=StillonMyMind.ogg&wiki=th

Music Score and Lyrics
by H.M. King Bhumibol Adulyadej

I can’t get you off my mind,
However I try,
The flame kindled in my heart,
Keeps burning high…

Though time has the power to quell,
It really cannot dispel,
The magic touch of your hand
So gentle in mine…

When night’s curtain starts to fall,
And light fades away,
My thoughts fly back to that day
You were so near…

This song will never end…
And time we cannot suspend,
You’ll be ever, and ever

Still on my mind

เพลงพระราชนิพนธ์ ในดวงใจนิรันดร์
คำร้อง: ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร

อยากลืมลืมรักลืมมิลง
กลับพะวงหลงเพ้อเงา
เปรียบปานเพลิงรักรุมสุมเศร้า
เปลี่ยวเปล่าร้าวรอน

แต่เพียงกาลเวลาอันหมุนเวียน
ฤาอาจผลัดเปลี่ยนเบียนรักคลอน
รสรักจากกร กอดสวมกร
ยังถาวรติดเตือน

เมื่อยามอาทิตย์ลอยคล้อยต่ำ
ย่ำยามท้องฟ้าเลือน
ยังหวังเชยชิดกันฉันเพื่อน
ติดเตือนตรึงใจ

สุดประพันธ์บรรเลงให้ครบครัน
วันอาจจะผ่านเวียนผันไป
รักนั้นจะเนาแน่นแฟ้น

ในดวงใจนิรันดร์


May 24, 2007

B–Day Party Highlights

งานวันแต่งงาน เอ้ย วันคล้ายวันเกิดของดิชั้นและคุณอุ๊ปอิ๊ปสนุกสนานและน่าประทับใจก็ด้วยความน่ารักของเพื่อนๆ ทุกคนในวอร์ริค

ขอบคุณมากๆ นะทุกคน ขอบคุณสำหรับมิตรภาพ
ขอบคุณสำหรับคำอวยพร การ์ด ดอกไม้ เค้ก และของขวัญ:)

Thank you guys for making our b-day such a blast!

นี่คือรูปไฮไลท์

ตัดเค้กร่วมกัน

ป้อนเค้กกันสวยสวย

ชักภาพหมู่ (ก่อนที่เอซี มิลานจะทำประตูได้สวยงาม555)
ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนมากนะจ๊ะ

กับสาวงามทั้งสามท่าน

ครัวอิ๊ปจะแตกก็เพราะพวกเรา

Thanks Guys!!!

thank you, my beloved flatmates:)

thank you Cindy and Thunj

N’Ply, you’re my real Bro now na
Judy, thanks for coming:) Best of luck with your essay!!

กับโจเซฟ แจคสัน เพื่อนร่วมเอกคนเดียวที่สามารถทิ้งงานมาได้ (คนอื่นหัวฟูฟูฟู 55)

ขอบคุณทุกคนมากๆ อีกครั้งนะจ๊ะ
Thanks for the best B-day party eva!
Let’s party again next time!!

Love you all lots


May 23, 2007

24!! I love my life

แม้วันเกิดปีนี้เราไม่ได้อยู่พร้อมหน้า แต่ใจเราก็ส่งถึงกันนะคะ จุ๊กกรู้
(ทำไม 24 แล้วยังติงต๊องเหมือนเดิม)

Po and Mom, thank you for giving me such a wonderful life!!
คิดถึงพ่อ Mom คุณย่า ป้าต้อย ลุงจุง วิตตี้ จันทน์หอม เอนเจล มากๆ ค่ะ
รอหน่อยนะ เดี๋ยวก็กลับบ้านแล้ว


May 22, 2007

Happy B–day:)

Just wanna be the first one to greet you…

IP

Let’s Partae tomorrow!!


May 21, 2007

Friends and Special friends

วันนี้นั่งดูรูปเพื่อนที่ถ่ายตอนมาส่งที่สนามบิน
อีไนน์ยังผมยาวอยู่เลย อีจ๋าก็ผอมผอมผอม
เอ๋ก็อ้วนนิดหน่อย เปิ้ลก็ยิ้มร่าเชียว ดีใจที่กรูไปใช่มั้ยล่ะ 555
น้องหนูกับโรสก็ดูมีความสุข
เมเป็ดในรูปก็... หน้าบานเชียว555 เสียดายรูปเบลออ่ะ

ทุกเช้าเปิดบลอคอ่านเจอเม้นท์ของต่อ ก้อง ของอีแม่
หรือเข้าไปดูบลอคชาวบ้าน
ก็พอคลายความคิดถึงไปได้บ้าง

เห็นชื่อเพื่อนในลิงก์ก็
ทำให้รู้สึกว่าเราช่างโชคดีที่ได้รู้จักกับคนดีดี
มีเพื่อนดีดีที่เป็นห่วงเป็นใยกัน

(จะอ้วกหรือยัง แต่ชั้นรู้สึกงั้นจริงๆ นะ)

ขอบคุณเพื่อนทุกคน ไม่อาจเอ่ยนามได้หมด
ไม่งั้นเซอร์เวอร์ล่มแน่
(เพราะเฮี้ยน ต้องจุดธูปก่อน555 ล้อเล่น)

ขอบคุณเพื่อนโต๊ะตายาย เพื่อนอักษร
ใครนะที่ยังไม่ได้เอ่ยพระนาม

ซิ้ม (คิดถึงบู) อั๋น (ไว้จะแวะไปหา) ดาว (มึงมาเยี่ยมใหม่) เจน (ที่เป็นเจน ขอบคุณที่ถามสารทุกข์สุกดิบประจำ)
โบ (ขอบคุณที่ส่งเพลงดีดีมาให้ ไว้จะไปเที่ยวลีดส์ใหม่นะ)
จุ๋ม (ขอบคุณสำหรับบทสนทนาดีดีทางเอ็ม)
หลิน (ชั้นติดบลอคแกงอมแงม เอาเรื่องอาหารมาล่อกรูอีกสิ)
ภัทร หมีเท็ดดี้ (ขอบคุณที่เป็นเพื่อนคุยยามเช้า คือ ช่วงเวลาตีสองตีสามเป็นต้นไป 555 สู้ๆ เพื่อน)

โอ และอีกมากมายเหลือเกิน

เอาเป็นว่า ขอบคุณเพื่อนโต๊ะตายายที่เป็นตัวของตัวเอง ไม่เปลี่ยนแปลง
แก่ไปเราก็มาคุยกันตามประสายายยายได้อย่างสนิทใจว่า
those were the days!

ขอบคุณแอร์ เพื่อนสนิท
(ชั้นรู้ว่าแกเข้ามาอ่านบลอคชั้นแต่ไม่ยอมเม้นท์ เหมือนนังน้องหนู
แต่น้องหนูยอมมาเม้นท์ละ เป็นเพลงซะด้วย
นี่ชั้นได้การ์ดวันเกิดแกแล้ว ขอบใจมากๆ นะเหี่ยว)
ยังไงก็ขอให้แกเข้มแข็งมากๆนะ
กลับบ้านเราไปกินอะไรอร่อยๆ กัน ชวนอีพลอยอีร่ม น้องหนูหมูเอ๋อ พวกวิก กวาง ไปด้วย ดีมะ

ขอบคุณพลอย เพื่อนสนิทหรอยๆ อีกคน สำหรับจดหมายที่อาร์ตที่สุดในโลก
สมุดด้วย กระเป๋าด้วย
กรูใช้จนพรุนล่ะ

ขอบคุณเพื่อนเก่าซฟ
ที่ยังนึกถึงกันเสมอ
โดยเฉพาะน้องหนู (ขอบคุณสำหรับคำอวยพรวันเกิด)
กวาง แน้ท สำหรับเมล์ในอินบอกซ์

ขอบคุณรุ่นน้องทุกๆ คน
โดยเฉพาะห้องหนูซึ่งเป็นน้องรหัสที่เข้ามาถามเสมอว่าเป็นไงบ้าง
และแม้ตอนเช้าเราจะไม่ค่อยได้คุยกันเหมือนเคย
(เพราะเวลานอนของพี่รวนซะ) พี่ก็ยังนึกถึงน้องหนูเสมอนะ

ขอบคุณเพื่อนป โทจุฬา
นุ่น ปุ้ย สำหรับความห่วงใย

ขอบคุณเพื่อนขาประจำในวงเหล้า
โหน่ง ตะวัน และอื่นๆ
ที่แม้จะไม่ค่อยได้คุยกันบ่อย แต่ก็รู้ว่าเราคิดถึงกัน จุ๊กกรู้
ไว้กลับไปตั้งวงแสงโสมอีกนะ
Ps. (I’m in the Rootes Building and so I can only type in English)
How can I forget Duk-Dik and N’Ying and other Alcoholic-soon-to-be people? Sorry I didn’t include you earlier… and Thanks na kae… though we haven’t talked much, I still look forward to your SOMA party na, Duk-Dik. Have I mentioned how I like the word SOMA? I even did a long essay on SOMA in Sanskrit mythology in the Veda when I was an undergraduate…

ขอบคุณเพื่อนใหม่
ที่ทำให้ชีวิตที่นี่สนุกสุดเหวี่ยง
อิ๊ป (หญิงไทยใจงาม)
แก้ว (ผู้หญิงใจดี แบบฉบับชิกเก้นวิงค์)
เป้ ปุ๊ปปี้ (คู่รักสะท้านวงการ)
นึกขอบคุณเพื่อนในเอกที่วอร์ริค
(ได้แต่นึกเพราะพวกนี้คงอ่านไม่รู้เรื่อง) ที่เป็นที่พึ่งพา เผชิญชะตากรรมร่วมกัน
เพื่อนในเอกอังกฤษของที่นี่ด้วย thank you thank you

ส่งความขอบคุณแบบวี๊ดบึ้มแด่โน้ต พิเศษสุดๆๆๆๆๆๆ
แด่อดีตนักร้องและนักแสดงเด็กที่โตมาเป็นอะไรก็ไม่รู้ 555 มิวเตชัน
ล้อเล่น เป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จเก๋ไกว่าเดิมไงคะ แล้วก็เป็นเพื่อนที่ดีคนนึง
ดีใจที่รู้จักคุณดีน ที่น่ารักด้วย

และขอบคุณอีเอ๊กซ์ อดีตนางงามทิฟฟานีซึ่งปัจจุบันย้ายสังกัดมาอยู่ค่ายกอร์ดอนเบลอ (ไม่ใช่กอร์ดอนบราวน์) ประสาแม่ครัวชั้นเลิศ ไม่มีแก ชั้นอดตาย

ยินดีที่ได้รู้จักกิฟฟี่ สุดสวยด้วยค่ะ

ขอบคุณเพื่อนพิเศษที่ผ่านเข้ามา
แม้ในที่สุดทุกอย่างจะไม่ได้เป็นอย่างที่หวังไว้
แต่เราก็ได้ใช้เวลาผ่านเรื่องร้ายดีมาด้วยกัน
ขอบคุณสำหรับความทรงจำดีดี
ที่เป็นพลังทำให้สามารถ Move on
เพราะชีวิตเป็นเรื่องของปัจจุบันและอนาคต จริงมั้ยล่ะ

Thank you Thank you my dear friends!

===========================================
ชอบเพลงนี้นะ เพราะดี

คงจะมีรักจริงรออยู่ ที่ดินแดนใดซักแห่ง
คงมีใครซักคนรออยู่ ตรงนั้น
คงมีความหมายใด ซ่อนอยู่ในการรอคอยที่แสนนาน
คงจะมีซักวันฉันคงได้เจอ

เจ็บมาแล้วตั้งกี่ครั้ง เมื่อความหลังพังทลาย
จะมีใครที่เป็นคนสุดท้าย
เธอคนนั้นอยู่แห่งไหน จะไกลแสนไกลเท่าไหร่
ก็จะไปที่ดินแดนแห่งนั้น

จะขอเอาคำว่ารัก ทุกคำที่ฉันได้เคยเอ่ย
จะขอมันคืนจากใครที่เคยผ่านเข้ามา

จะขอรวมคำว่ารักเหล่านี้ ทวีความหมายและคุณค่า
จะขอเอามามอบไว้ให้เธอผู้เดียว

ข้ามขอบฟ้า แผ่นน้ำ หรือขุนเขาทะเลทราย
ไกลเท่าไหร่จะไปให้ถึง

คงจะมีรักจริงรออยู่ ที่ดินแดนใดซักแห่ง
คงมีใครซักคนรออยู่ ตรงนั้น
คงมีความหมายใด ซ่อนอยู่ในการรอคอยที่แสนนาน
คงจะมีซักวันฉันคงได้เจอ

ข้ามขอบฟ้าหรือขุนเขา ข้ามแผ่นน้ำทะเลกว้างใหญ่
แต่ฉันจะไปหาเธอ

ข้ามขอบฟ้า แผ่นน้ำ หรือขุนเขาทะเลทราย
ไกลเท่าไหร่จะไปให้ถึง

คงจะมีรักจริงรออยู่ ที่ดินแดนใดซักแห่ง


Chapter Two, Done (Woo Hoo!)

Just clicked the last word in the library:) Start humming to myself

Whoa-oa-oa!....
I feel good, I knew that I would, now
I feel good, I knew that I would, now
So good, so good, I got CHAPTER TWO

Whoa! I feel nice, like sugar and spice
I feel nice, like sugar and spice
So nice, so nice, I got CHAPTER TWO

============================================

Ah well, see?

What a hopeless nerd I am,
but think I’m still a cool nerd na

Just a quick note to let people at home know that I’m still well and alive:) Miss you all lots…

ps.

Mom and Po, thank you for the package (Kaeb-Moo aroy mak mak)

Nine, don’t forget to say hi to friends next time

Tor, I will take care of your letter tomorrow or on Tuesday

Jane, thanks for calling today
(no one else dares to do so these days LOL)


May 18, 2007

Written when utterly grateful after having encountered the dark side of academia

ใกล้วันเกิดเข้าไปทุกที

เราก็อดไม่ได้ที่จะนั่งนึกถึงทุกคนในชีวิตที่ทำให้เรามีวันนี้
รู้สึกซาบซึ้งในพระคุณของผู้ใหญ่ใจดี ในน้ำใจของเพื่อนฝูง
อยากให้คุณความดีจงคุ้มครองทุกคนในชีวิตของเราตลอดไป

วันนี้เรามารำลึกพระคุณอาจารย์กัน
แม้จะมีบางครั้งที่หวั่นในความเจ้าระเบียบหรือความเข้มงวดของอาจารย์อยู่บ้าง
แต่ความจริงข้อหนึ่งก็คือ
แรงบันดาลใจหนึ่งที่ขับเคลื่อนให้เรามาถึงจุดนี้ คือความต้องการที่จะเดินตามทางของอาจารย์ในคณะอักษร ซึ่งนับวันก็มีแต่จะยิ่งประจักษ์ในข้อความจริงที่ว่า
ท่านล้วนป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยคุณความดี
พร้อมด้วยวัยวุฒิ คุณวุฒิ
มีจิตสำนึกและความปรารถนาดีให้พวกเราเสมอ
(ภายใต้ภาพมายาของความเข้มงวด)

เราบูชาคำพูดของอาจารย์และยึดถือปฏิบัติเพราะล้วนเป็นคำพูดที่มีคุณค่า
การกระทำของท่านเป็นตัวอย่างที่ทำให้รู้ว่าถ้าคิดเช่นนี้ทำเช่นนี้ได้จิตใจเราก็จะอิ่มเอมมีความสุข

อาจารย์เราไม่เคยสอนให้ยกตนข่มท่าน ไม่เคยสอนให้ดูหมิ่นดูแคลนผู้อื่น
เพราะไม่มีใครอยู่ในสถานะที่จะตัดสิน

ไม่เคยสอนให้อิจฉาริษยา

ไม่เคยสอนให้หาผลประโยชน์

ไม่เคยสอนให้ละโมบ

ไม่เคยสอนให้เจตนามุ่งร้าย

ไม่เคยสอนให้ป้ายความผิด

เป็นธรรมดาที่ผู้ที่มีปัญญาเลิศมักจะรู้สึกภาคภูมิใจ และมีทิฐิสูง จนอาจถึงขนาดคิดว่าตนนั้นเก่งเลิศที่สุดในโลก

แต่ในเรื่องนี้อาจารย์สุรภีพรรณเคยกล่าวเตือนว่า
เมื่อใดที่เราคิดว่าเราเก่ง เราดี
เมื่อนั้นเรากำลังเดินถอยหลัง

อาจารย์ปรีชาเคยกล่าวว่า
วิชาความรู้เป็นเครื่องมือในการสร้างสรรค์
และแม้ล้นเกล้ารัชกาลที่หกจะทรงพระราชนิพนธ์ไว้ว่าปัญญาเป็นดั่งอาวุธ อาวุธนั้นไม่ได้มีไว้สำหรับห้ำหั่นใคร หากเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมความเจริญของคนหมู่มาก เป็นพร้า เป็นมีดถางหญ้าให้สามารถใช้ปลูกพืช ใช้ประโยชน์จากผืนดินได้ต่อไป

อาจารย์คารินาสอนให้รู้จักความเป็นมนุษย์และความเป็นครูที่ทันสมัย ”รู้เท่าทัน”
คือทันโลก ทันกาลเวลา ทันเกม (การเมือง:) และทันความคิดของคน
ซึ่งมีหลายประเภท

คนมีหลายประเภท
คนที่ติดลาภยศสรรเสริญ เห็นวิชาการเป็นเพียงบันไดปีนป่ายไปเพื่อจะอยู่บนจุดที่จะมองลงมาดูแคลนคนที่ตนคิดว่าอยู่เบื้องล่างของตนก็มี

คนที่พอไม่สมหวังงก็พาลสร้างปมด้อยในเรื่องสถาบัน
(อันเป็นเรื่อเปลือกนอก ด้วยแก่นสารอันแท้จริงของชีวิตคือการให้) ก็มี

คนที่เรียกตัวเองว่าป็นผู้ยิ่งใหญ่ แต่ในใจกลับประหวั่นพรั่นพรึงในความจริงที่ว่าทุกอย่างเป็นเพียงมายา ก็มี

คนมีหลายประเภท
แต่คนที่อาจารย์ของเรามุ่งหล่อหลอมให้เป็น คือ

คนที่มีจิตสำนึก ไม่เห็นแก่ลาภยศ ด้วยชีวิตเป็นสิ่งชั่วคราว ชื่อเสียงเป็นสิ่งที่ไม่คงทนและว่างเปล่า วิชาการเป็นบันไดปีนป่ายไปชื่นชมดวงดาวและซาบซึ้งกับชีวิต เพื่อจิตใจจะได้สงบ แล้วมาเล่าแบ่งปันด้วยความเมตตาอย่างเป็นผู้ที่ตื่นแล้ว

คนที่ไม่แข่งขัน เพราะถ้าไม่แข่งขันก็จะไม่มีวันแพ้
เมื่อไม่มีวันแพ้ ก็จะไม่มีวันพลาดหวัง
เมื่อไม่มีวันพลาดหวังก็จะไม่มีวันไร้สุข
นี่คือหัวใจของปัญญา

คนที่โอบกอดโลก และรู้ทันมายา

อาจารย์พจีสอนให้ขยัน ให้ตื่นแต่เช้า ให้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า
แต่ในขณะเดียวกันก็ให้หยุดเพื่อดมดอกไม้และเฝ้ามองฤดูกาลที่เปลี่ยนไปของชีวิตอย่างรู้คุณค่า

อาจารย์ไรท์สอนให้หัวเราะ หัวเราะ หัวเราะ
ด้วยทุกอย่างในโลกล้วนอยู่ในเขตสีเทา
ทุกอย่างมีมุมกลับให้เราย้อนคิดย้อนถามตัวเองเสมอ
เพราะฉะนั้นเราไม่ควรรับความคิดที่ส่งผ่านกันมาอย่างเรื่อยเปื่อย แต่ควรหัวเราะ (เยาะ? ใส่? อย่างขบขัน? อย่างมีความสุข? อะไรก็ว่าไป)

อาจารย์ภาวรรณสอนให้ซาบซึ้งกับสุนทรียภาพของตัวหนังสือแต่เท้าต้องติดดิน เพราะตัวหนังสือมาจากคน และคนนั้นอยู่ติดโลก ไม่ได้ลอยไปมาบนอากาศ

อาจารย์สงวนศรีสอนให้เราดำดิ่งไปในความรู้ รู้อะไร หากรู้ลึกอย่างที่สุด
เราก็จะพบกับความเบิกบานใจ และยิ่งหากได้แบ่งปันความเบิกบานใจก็จะทวีคูณ

อาจารย์ดารินทร์แสดงให้เห็นว่าความสงบที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไร

อาจารย์จาตุรีสอนให้รู้ว่าอาจารย์ที่ดีไม่ใช่อาจารย์ที่นั่งตรวจทานแก้ไขงานเขียนของนักเรียนแบบแม่นกป้อนอาหารให้ลูกนก เพราะนอกจากจะทำให้นักเรียนไร้พัฒนาการจินตนาการและความคิดแล้ว ยังทำให้นักเรียนไม่เติบโตไม่มีพื้นฐานที่แข็งแรง
อาจารย์ที่ดีคืออาจารย์ที่เปิดโลกทางความคิดของนักเรียนโดยบทสนทนาอันเพลิดเพลิน แม่นกอาจต้องทำลายรังของตนเพื่อลูกนกจะได้บินหาอาหารเองได้... เสียที

เรารู้สึกโชคดีอย่างที่สุดที่ได้มีวันเวลาที่ดี ได้ใช้เวลาร่วมกับอาจารย์ที่หวังดี
มุ่งให้แต่สิ่งดีดีและบทเรียนอันมีค่าของชีวิต

หนูไม่เคยลืมคำพูดของอาจารย์ทุกท่านค่ะ
เพราะที่มีความสุขทุกวันนี้ก็เพราะได้ทำตามหลักการดีดีที่กรุณาสอนหนูให้เข้าใจ


May 15, 2007

Damn you, computer… next time I'll buy myself a typewriter…

Now, dear friends, I prefer to be anachronistic in my ways…

คอมเจ้ากรรมดันมาเป็นอะไรก็ไม่รู้ตอนงานพีค เซ็งจิตจริงๆ
ตื่นเช้ามาเปิดเครื่อง อ่ะ ชอคซีเนมา ไฟล์หายเรียบ
ดีนะที่พอจะรอบคอบรอบเอวแบคอัพเอกสารสำคัญๆ ไว้บ้าง

แต่รูปที่ยังไม่ได้ไรท์ซีดี
และเพลงและอะไรต่อมิอะไรที่กำลั๊งกำลังจะแบคอัพหายเกลี้ยงค่ะ
A lesson to procrastinators like me!!

เช็คดู ไฟล์ดิซเซอร์ที่ปกติจะไว้บนเดสก์ทอป
(เพราะขี้เกียจ ตัวเป็นขน นอกจากจะอ้วนเป็นหมูแล้ว)
ก็ไม่มี หายหมด

ดีที่เมื่อคืนเกิดลางอะไรอย่างบางทำให้ลุกขึ้นมาแบคอัพไฟล์ดิซเซอร์ทั้งหมดไว้กับเซอร์เวอร์มหาวิทยาลัย ไม่งั้น ต้องนั่งพิมพ์เพิ่มหัวฟู

ต่อไปนี้จะทำอะไรจะแบคอัพลงซีดีให้หมด ไว้ใจไม่ได้จริงๆ
คอมบ้า

เพื่อนๆ มีประสบการณ์เช่นนี้กันบ้างหรือเปล่า เล่าให้ฟังบ้างนะ
ตอนนี้เซ็งมาก

คอมพิวเตอร์มันช่วยให้ชีวิตเราสบายขึ้นจริงๆ เหรอเนี่ย เคยถามตัวเองมะ
เราเริ่มถามตัวเองละ เพราะทุกวันนี้เสียเวลาชีวิตไปกับอินเตอร์เนตตั้งมากมาย
เริ่มจากตอนเช้าตื่นตีสี่ลุกขึ้นมาหุงข้าว ก็เปิดคอมเช็คเมล์ เปิดบีบีซีอ่าน ต่อไปเป็นแมเนเจอร์ออนไลน์ อ่ะอันนั้นดี ได้ความรู้
ต่อมาสิเข้าเฟซบุคเล่นเอ็มอีก แหม มันอดไม่ได้ อยู่เมืองนอกเมืองนามันเหงาคิดถึงบ้านคิดถึงเพื่อน ก็ดี อินเตอร์เนตเชื่อมสัมพันธ์

แต่ดูนาฬิกา นี่นั่งมาเป็นชั่วโมงยังไม่ได้ทำงาน
อ่ะทำงาน เสร็จแบคอัพไฟล์อีก เสียเวลาทำมาหากิน

จริงๆ จะโทษคอมไม่ได้ เพราะมันเป็นแค่เครื่องมือใช่ป่ะ
มันไม่ได้ลุกขึ้นมาสั่งงานให้เราเปิดมันหรือให้เราดูแลรักษามัน
เราเองอ่ะสนอง demand และกฎเกณฑ์ที่โลกไซเบอร์ตั้งขึ้นมา
จะมองว่าเป็น conspiracy theory ของบริษัทคอมก็ได้
อย่างฟูโกล์ ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่มาเห็นนางสาววูลฟ์นั่งพิมพ์คอมเล่นเนตเป็นทาสอินเตอร์เนตละก็ เชื่อได้ว่าจะต้องเยาะเย้ยว่าเราเป็น docile body ของสถาบันคอม เปรียบเรากับนักโทษเบดแล่มที่ถูกสายตาเพนอปติคอนจับอยู่ทุกอากัปกิริยา
มันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เมื่อคอมเป็นบ้า เราก็พลอยจะบ้าไปด้วย

แต่เราทำไรกับมันได้มะ... ไม่ได้ ชีวิตเรามันมาผูกกับคอมแล้วเนี่ย ดูสิ ขนาดคอมอาละวาดชั้นยังมานั่งพิมพ์ข้อความบ่นลงบลอค
แถมยังเข้าไปเซฟรูปจากเฟซบุคสวยสวย

เอาเหอะ ถือซะว่าเป็นการที่คอมมันมาเตือนให้เรารู้จักรอบคอบระมัดระวังและเลิกขี้เกียจเลิกผลัดวันประกันพรุ่ง ต้องมองมันในแง่ดี let go let go

กลับบ้านไปนะชั้นจะควักเนื้อซื้อเครื่องพิมพ์ดีดให้รู้แล้วรู้รอด อย่างน้อยก็ไม่ต้องมาพึ่งพาอะไรที่มันพึ่งพาไม่ได้ ผีเข้าผีออก คนรุ่นก่อนหน้าเรายังอยู่ได้
อาจารย์คารินาเคยเล่าให้ฟังว่าสมัยอาจารย์น่ะเขาเขียนดิซเซอร์กันด้วยพิมพ์ดีดทั้งนั้น ตอนเย็นเดินกลับหอมหาวิทยาลัยอาจารย์บอกว่าจะได้ยินแต่เสียงต๊อกๆ ของแป้นพิมพ์ พิมพ์แล้วก็พิมพ์อีกนับครั้งไม่ถ้วนเพราะต้องใช้ดินสอขีดเขียนตรวจปรูฟ ไม่เหมือนรุ่นพวกเราที่ได้กอปปี้เพสต์ลบโน่นนี่ สเปลเช็ค
(ซึ่งไม่ค่อยได้ผลเพราะจ้าของโปรแกรมมันเน้นอังกฤษที่เป็นเมกัน ดูแล้วรำคาญจิต ไม่ใช่เพราะดิชั้นรักอังกฤษ เป็น anglophile ดิชั้นรักเฉพาะเมืองไทย แต่ไม่รัก ไทยรักไทย อ่ะ ปากเสียแต่เช้า เอาเป็นว่าไม่ชอบสเปลเช็คแบบนี้ กังขาว่าทำไมชาติมะกันจะต้องสะกดคำแปลกให้มากเรื่องมากความ)
ถึงไหนละ เออ นั่นแหละ เพราะอย่างนั้นรุ่นก่อนๆ จึงเก่งกว่ารุ่นของเราหรือเปล่า
ให้คิดเอาเอง

คอมเสียนี่ก็ทำให้เรารู้คุณค่าของอะไรบางอย่างมากขึ้น

ต่อไปอาจมีคนเขียนกลอนยกให้คอมอยู่ในธีมของ Carpe Diem ก็ได้
ใครจะรู้ เหอะๆ

สวัสดี


May 12, 2007

Like I said, I'm a very busy woman

อยู่ที่นี่ดิชั้นทำอะไรบ้างหรือคะ
ตามมาดูกันเลย

What have I been doing lately?

grouphiso

1. เรียน อย่างหนัก (I study real hard)

g

2. เข้าห้องสมุด (I go to the library)

duel

3. เขียนดิซเซอร์ (I write my dissertation)

g1

4. อ่านหนังสือ หลายเล่ม (I read read read)

meandjuno

meip

hey

คิดถึงทุกคนมากมากค่ะ
(Miss you all mak mak!!)


May 2007

Mo Tu We Th Fr Sa Su
Apr |  Today  | Jun
   1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31         

Search this blog

Tags

Galleries

Most recent comments

  • congratulations by secret admirer on this entry
  • ?? by kwangbeauty@M6arts on this entry
  • by Kwang Beauty on this entry
  • u are so fast….. by on this entry
  • by jeep on this entry

Blog archive

Loading…
Not signed in
Sign in

Powered by BlogBuilder
© MMXXIII